เกี่ยวกับการชง กาแฟดริป # 1 (ลดรสขม)

กาแฟ(ดริป)ที่เราชงออกมาดื่มนั้น
รู้สึกขม มากไป (Too Bitter) ควรทำอย่างไรดี ?

การชงกาแฟแบบ Pour Over หรือที่เรียกๆกัน กาแฟดริป นั้น หลายคนยังคิดว่า ก็ใส่กาแฟและเทน้ำลงไป รอมันหยดลงมา ก็ดื่มได้เลย จะว่าไปมันก็ดื่มได้จริงๆนั่นแหละ แต่อาจจะ เอ๊ะทำใมไม่อร่อยเหมือนเมื่อวาน ทำใมวันนี้ฝาด ๆ ! ทำใมวันนี้รู้สึกขมมากขึ้น 

การที่จะหลีกเลี่ยงอาการรสชาติไม่นิ่ง ไม่สามารถควบคุมได้นั้น เราจึงจำเป็นที่จะต้องมองลึกลงไปกว่า แค่ใส่กาแฟและเทน้ำ
และคิดว่าที่จริงทุก ๆ อย่างที่เรากระทำกับกาแฟของเรานั้น มีผลต่อรสชาติกาแฟทั้งสิ้น เพราะอย่างที่เคยบอกในหลายๆบทความค่ะว่า กาแฟ  เป็นอะไรที่ไม่ต้องปรุงรสมากมาย มีแค่กาแฟและน้ำร้อน เพราะฉะนั้นการชงมาให้อร่อยนั้นจะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยากเลยแหละ


🍒  แ ต่ อ ย่ า เ พิ่ ง ท้ อ ใจ   ไปค่ะ
ทุกอย่างควบคุมได้ หากเรารู้หลักและพื้นฐานของการชงกาแฟ (ดริป)

 

 * จากรูป Lili Dripper


เราแนะนำให้ ลองเล่นกับตัวแปรการชงเหล่านี้ดู หากกาแฟที่เราดื่มและชงออกมานั้น รู้สึกขม มากเกินไป

 

1. เพิ่ม Dose (เพิ่มปริมาณผงกาแฟที่เราใช้)
และใช้น้ำในการชงเท่าเดิม วิธีนี้นี้จะช่วยให้กาแฟมีบอดี้ ( Body หมายถึง ความรู้สึกถึงสัมผัสของกาแฟที่อยู่ในปากของเรา ไม่ใช่ความขม แต่อย่างใด ) มากขึ้นด้วย   ลองเพิ่ม  Dose ทีละนิดดูนะคะอาจจะลองเพิ่มสักครั้งละ  0.5 - 1 กรัม ค่ะ

2. ปรับระดับการบดให้หยาบขึ้น 
หากผงกาแฟหยาบขึ้น ก็จะลดเวลา การสัมผัสของผงกาแฟและน้ำร้อน และเมื่อผงกาแฟหยาบขึ้นน้ำก็จะเข้าไปสกัดกาแฟออกมาได้ยากขึ้นด้วย  แนะนำให้ปรับหยาบขึ้นทีละน้อย ๆ เช่นเดิมนะคะ เพราะหาก หยาบมากไปกาแฟที่ชงออกมา อาจจะมีรสชาติแบบ Under Extracted จะเจือจางเหมือนน้ำเปล่า อาจจะมีแต่เปรี้ยวโดด  (ในกรณีที่ใช้เมล็ดกาแฟคั่วค่อนข้างอ่อน) ไม่มีรสอื่นมาเสริม และกาแฟไม่มี Aftertaste รวมไปถึงมี Body ที่น้อย

 

  1. ลองเพิ่มปริมาณน้ำที่ใช้ Bloom (more Bloom weight)
    เพราะรสเปรี้ยวสดชื่น ในกาแฟจะถูกสกัดออกมาเป็นลำดับแรก ๆ ของการชง การเพิ่มปริมาณน้ำที่ใช้สกัดในช่วงแรก ๆ ก็สามารถทำให้รสเปรี้ยวในกาแฟถูกสกัดออกมาได้มากขึ้น ซึ่งจะสร้างความบาลานซ์ให้กับกาแฟในแก้วของเราได้ดีขึ้น  แต่เหมือนเดิมค่ะ ลองเพิ่มทีละนิดนะคะอาจจะเริ่มจาก 3-5 grams ค่ะ

 

  1. เพิ่ม Bloom Time
    หากกาแฟของเราที่ใช้ชงนั้น ค่อนข้างคั่วใหม่ ทำให้มี Co2 ในเมล็ดค่อนข้างเยอะกว่ากาแฟที่ถูกคั่วมานานกว่า และ Co2 นั้นมีรสขม การเพิ่ม Bloom time นั้น ก็จะช่วยให้ Co2 ในผงกาแฟ ลอยออกไปในอากาศได้มากขึ้น

 

  1. ลดการกวนน้ำ (Decrease the Agitation)
    หากเราชงด้วยอุปกรณ์แบบพวก French Press การกวนน้ำก็เช่น การเอาช้อนคน หากเราชงด้วยวิธี  Pour Over และใช้วิธีชงแบบ Pulse Method คือเทเป็นรอบ ๆ  ก็อาจจะลดรอบลงหรือหากเทแบบ Continuous Pouring ก็ให้เทน้ำแบบเบานุ่มนวลขึ้น  ( เพราะการ Agitation หรือการคน,กวนกาแฟ  จะเป็นสิ่งที่ช่วยเร่งการสกัดกาแฟให้มากขึ้น ให้ลองนึกภาพเมื่อเราอยากจะละลายน้ำตาลในน้ำให้เร็วขึ้น  การที่เราใช้ช้อนคนก็จะทำให้น้ำตาลนั้นละลายได้เร็วขึ้น กาแฟก็เหมือนกัน )   

การชงกาแฟดริป

  1. ลองลดอุณหภูมิของน้ำที่ใช้ชง
    เพราะอุณหภูมิของน้ำที่สูงกว่าจะดึงสารละลายในกาแฟออกมาได้มากกว่าในเวลาที่เท่ากัน
      หากเราต้องการลดรสขม ( จาก Over Extract ) ให้เราลองลดอุณหภูมิของน้ำที่ใช้ลงสักทีละ 1-2 องศา  เพื่อเป็นการลดความสามารถในการสกัดของน้ำลง และความขมของกาแฟที่ออกมาในช่วงหลังๆของการชง จะน้อยลงค่ะ


    โทโบะ คอฟฟี่ แอนด์ โรสเตอร์ / Tobo' Coffee & Roaster
    แนะนำนักดื่ม (กาแฟ) ทุกท่าน ที่ชงกาแฟด้วยวิธี Pour Over (Drip) ดื่มทุกๆวันที่บ้าน
    ให้ลองนำปัจจัยเหล่านี้ไปปรับใช้กับการชงของตัวเองที่บ้านดูนะคะ

    ลองปรับที่ละตัวแปร ลองชง และลองชิมเเละจดดูว่าปรับแบบไหนได้ผลอย่างไร ทำบ่อย ๆ ก็จะช่วยให้เราชงได้โดนใจตัวเอง ได้อย่างอัตโนมัติ และง่ายขึ้น ง่ายขึ้น อย่างแน่นอนค่ะ

    🍒 และการชงกาแฟที่บ้านจะสนุกขึ้นอีกเยอะ และทำให้เมล็ดกาแฟตัวเดิมที่เราใช้ชงดื่มทุกวันนั้น อร่อยขึ้นได้อีกมาก ๆ หากเรารู้หลักในการชง และไม่คิดว่า การชงกาแฟดริป ก็แค่บดกาแฟขนาดไหนก็ได้ และก็เทน้ำลงไป รอหยดลงมาหมด และก็ดื่ม ค่ะ

* สำหรับบทความเกี่ยวกับการชง กาแฟดริป (Pour Over) # 2  จะพูดถึง หากกาแฟที่เราชงออกมานั้น เปรี้ยวเกินไป ควรปรับการชงอย่างไรดี  ติดตามอ่านก่อนใคร
ได้ที่ Tobocoffee.com